ควรตรวจสุขภาพอย่างไรในแต่ละช่วงวัย

      การตรวจสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยทั่วไปแล้วโปรแกรมตรวจสุขภาพเบื้องต้นจะแบ่งตามเพศและช่วงวัย โดยแพทย์จะแนะนำให้ตรวจทุก 1 ปี การตรวจสุขภาพแต่ละช่วงวัยควรตรวจสุขภาพอย่างไร

อายุ 0 – 18 ปี

1. ตรวจเช็กสุขภาพทั่วไป ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุกครั้งที่มาตรวจพัฒนาการและรับการฉีดวัคซีนในวัยรุ่นควรเช็กด้วย BMI ด้วย

2. ได้รับวัคซีนที่เหมาะสมตามช่วงวัย

3. ตรวจคัดกรองทางห้องปฏิบัติการ

      – ตรวจคัดกรองการได้ยินด้วยเครื่องมือ OAE ภายใน 6 เดือนหลังคลอด

      – ตรวจเลือด เพื่อค้นหาภาวะซีด ในทารกแรกเกิดและให้การดูแลรักษาภาวะซีดเพื่อป้องกันไม่ให้ IQ ต่ำ ช่วงอายุ 6 – 12 / 3 – 6 ปี / ช่วงวัยรุ่น (หญิง)

4. ตรวจคัดกรองพัฒนาการ

      – ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และเล็ก

      – ด้านการใช้ภาษาและการสื่อสาร

      – ด้านการช่วยเหลือตัวเองและการเข้าสังคม

      – ด้านสติปัญญาและจริยธรรม

5. ค้นหาพฤติกรรมเสี่ยงตามวัย

      – การปล่อยปละละเลยจนเสี่ยงอันตราย

      – ปัญหาพฤติกรรม อารมณ์

      – ปัญหาการเรียน ติดเกม เครียด

      – ปัญหาครอบครัว เรื่องเพศ ยาและสารเสพติด

6. ส่งเสริมสุขภาพด้านอื่นเพื่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสม

      – ดูแลช้องปากและฟัน

      – การมีโภชนาการที่ดีและการออกกำลังกายที่เหมาะสม มีผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก

อายุ 18 - 60 ปี

1. ตรวจร่ายการทั่วไป ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง BMI และวัดความดันโลหิตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

2. ตรวจสายตา อายุระหว่าง 40 – 60 ปี ควรตรวจวัดสายตา 1 ครั้ง

3. การตรวจคัดกรองมะเร็งที่จำเป็น

     – มะเร็งเต้านม อายุ 30 – 39 ปี ควรตรวจทุก 3 ปี อายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจทุกปี ควรคลำเต้านมด้วยตนเอง หากมีความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์

      – มะเร็งปากมดลูก อายุ 30 – 65 ปี ควรตรวจทุก 3 ปี

      – มะเร็งลำไส้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจอุจจาระทุกปี  

4. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ

      – ตรวจหาภาวะซีด อายุ 18 – 60 ควรตรวจหาภาวะซีด 1 ครั้ง เพื่อให้การดูและรักษาที่เหมาะสม

      – ตรวจหาเบาหวาน อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุก 3 ปี ถ้าตรวจเจอเร็วจะรักษาได้เร็ว ป้องกัน และชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

      – ตรวจหาไขมันในเลือด อายุ 20 ปีขึ้นไปควรตรวจทุก 5 ปี ช่วยคัดกรอง และป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

5. แบบประเมินสภาวะสุขภาพของคนวัยทำงานที่จำเป็น สามารถคัดกรองได้ด้วยตนเอง หรือ บุคลากรสาธารณสุข โดยใช้แบบประเมิน ภาวะซึมเศร้า ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด การติดบุหรี่ สุรา ยาและสารเสพติด เพื่อให้รับคำปรึกษาและการดูแลที่เหมาะสม

อายุ 60 ปีขึ้นไป

1. ตรวจร่างกายทั่วไป ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง BMI และวัดความดันโลหิต อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

2. ตรวจสายตา อายุ 60 – 64 ปี ตรวจทุก 2 – 4 ปี อายุ 65 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 1-2 ปี เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการมองไม่เห็น

3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น

      – ตรวจปัสสาวะ ควรตรวจทุกปี เพื่อคัดกรองความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ

      – ตรวจหาภาวะซีด ควรตรวจทุกปี เมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป

      – ตรวจหาไขมันในเลือด ควรตรวจทุก 5 ปี

      – ตรวจหาเบาหวาน ควรตรวจทุกปี

      – ตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของไต ควรตรวจทุกปี เพื่อตรวจคัดกรองความผิดปกติของไต

4. ตรวจคัดกรองมะเร็ง

      – มะเร็งปากมดลูก ตรวจทุก 3 ปีจนถึงอายุ 65 ปี

      – มะเร็งเต้านม ตรวจทุกปีจนถึงอายุ 69 ปี

      – มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตรวจอุจจาระทุกปี

5. ประเมินสภาวะสุขภาพในผู้สูงอายุ

      – ภาวะโภชนาการ เพื่อลดภาวะทุพโภชนาการ และได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม

      – ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาติ

      – ความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน เพื่อป้องกันการเกิดกระดูกหัก

      – ภาวะสมองเสื่อม เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต

      – ภาวะซึมเศร้า เพื่อคัดกรองภาวะซึมเศร้า และได้รับการวินิจฉัยช่วยเหลือที่ถูกต้องและเหมาะสม

สสส.
สสส.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
Read More
การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้อุ่นใจ และคลายความกังวล เพราะการตรวจสุขภาพเป็นการตรวจสำหรับผู้ที่ยังไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เพื่อค้นหาความเสี่ยงของโรคที่ยังไม่แสดงอาการ ซึ่งการพบปัญหาแต่เนิ่น ๆ ลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
Posted in บทความ and tagged , , , , , , , , .